วันพุธที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2554

การเชื่อมต่อแบบจุดต่อจุด (Point to Point Line) แบบบัส

การเชื่อมต่อแบบจุดต่อจุด (Point to Point Line)

ก.) แบบบัส (Bus Network)
เป็นการเชื่อมโยงคอมพิวเตอร์โดยใช้สายวงจรเดียว ซึ่งอาจจะเป็นสายเกลียวคู่สายโคแอกเชียล หรือ สายใยแก้วก็ได้ สัญญาณสามารถสื่อสารได้ 2 ทางใน
เครือข่ายโดยมีซอฟต์แวร์คอยช่วยแยกว่าอุปกรณ์ใดจะเป็นตัวรับข้อมูล หากมีคอมพิวเตอร์ตัวใดในระบบล้มเหลวจะไม่มีผล ต่อคอมพิวเตอร์อื่น อย่างไรก็ตามช่องทางในระบบเครือข่ายแบบนี้สามารถจัดการรับข้อมูลได้ครั้งละ 1 ชุดเท่านั้น ดังนั้นจึงเกิดปัญหาการจราจรของข้อมูลได้ในกรณี
ที่มีผู้ต้องการใช้งานพร้อมกัน โทโปโลจีแบบนี้นิยมใช้ในวงแลน
     นอกจากนี้การขยายระบบของเครือข่ายก็สามารถกระทำได้ง่าย เพราะเพียงแต่นำอุปกรณ์ใหม่มาต่อพ่วงกับบัสเท่านั้นก็สามารถเชื่อมโยงกับเครือข่าย
ได้ทันที และประการสำคัญหากเครื่องลูกข่ายภายในระบบตัวใดตัวหนึ่งเกิดมีปัญหาไม่สามารถเชื่อมโยงกับเครือข่ายได้ในขณะนั้น ก็จะไม่ทำให้ทั้ง
ระบบหยุดชะงักหรือขาดการติดต่อสื่อสารลงไปทั้งระบบ สถานีแต่ละสถานีไม่มีปัญหายังคงติดต่อสื่อสารภายในระบบกันได้อย่างไม่มีปัญหา



วันพฤหัสบดีที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2553

การเข้าหัว สายแลน

ระบบเครือข่าย
 ระบบเครือข่าย LAN
        LAN ย่อมาจาก Local Area Network คือ กลุ่มของคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมโยงเข้าด้วยกันในพื้นที่ที่จำกัด เช่น ภายในอาคารเดียวกัน โดยคอมพิวเตอร์ที่ต่อกันอยู่นั้นสามารถที่จะแบ่งกันใช้ข้อมูล สามารถโอนย้ายข้อมูลระหว่างเครื่องได้รวมทั้งยังสามารถใช้อุปกรณ์ต่างๆร่วมกันได้อีกด้วย เรามักจะพบเครื่องคอมพิวเตอร์สแกนเนอร์ร่วมกัน หรืออาจสรุปได้ง่ายๆว่า LAN คือระบบเครือข่ายชนิดหนึ่งที่ใช้ในพื้นที่ที่จำกัดนั้นเอง

ระบบ WAN
       ระบบ WAN ย่อมาจาก Wide Area Network เป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์เช่นเดียวกันกับ LAN แต่เป็นเครือข่ายที่ใหญ่ขึ้นมาอีก ได้แก่ การเชื่อมโยงเครือข่ายคอมพิวเตอร์ระหว่างเมือง มักจะใช้เพื่อการเชื่อมโยงระหว่างเครือข่ายที่อยู่พื้นที่ห่างไกลกันได้สามารถรับส่งข้อมูลกันได้ เช่น เร้าเตอร์ (router),โมเด็ม(modem) และอาจจะมีอุปกรณ์อื่นๆหรือชอร์ฟเวอร์ต่างๆเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย

      ระบบ Internet คือ ระบบการสื่อสารข้อมูลโดยเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่มีการเชื่อมต่อกันอยู่ทั่วโลก เพราะจุดให้บริการเครือข่าย (Server) ในแต่ละมาตรฐานการติดต่อสื่อสาร (Protocol)อันเดียวกันคือ TCP/IP มีศูนย์กลางที่ประเทศสหรัฐอเมริกา และกระจายเครือข่ายอยู่ทั่วโลก

การเชื่อมต่อกับระบบ Internet
      การเชื่อมต่อกับระบบ Internet ผู้ใช้บริการจะต้องติดต่อกับผู้ให้บริการ ISP(Internet Service Provider) เพื่อสมัครสมาชิกและขอหมายเลขบัญชี เพื่อโทรศัพท์เข้าศูนย์บริการ โดยติดต่อกับ Modem เพื่อทำการแปลงสัญญาณดิจิตอลของคอมพิวเตอร์เป็นสัญญาณโทรศัพท์แล้วส่งผ่านข้อมูล ไปตามสายโทรศัพท์ และเมื่อมีการส่งข้อมูลกลับมา Modem จะทำหน้าที่แปลงสัญญาณโทรศัพท์ไปเป็นสัญญาณดิจิตอล โดยข้อมูลทั้งหมดจะถูกนำเข้ามาและส่งออกโดยใช้

        การเข้าหัวสาย UTP (Cat5)แบบ RJ-45การเข้าหัวสาย UTP แบบ RJ-45 เพื่อนำไปใช้ในระบบ LAN สายนี้สามารถใช้ได้กับระบบ LAN ที่มีความเร็ว 10 หรือ 100 Mbps ได้ทั้ง 2 ระดับ แต่ถ้าจะใช้ที่ระดับ 100Mbps ควรใช้เส้นค่อนข้างสั้นและต้องเป็นเกรดดี
 การเข้าหัว RJ 45 แบบสายไขว้
 การเข้าแบบไขว้ หรือ Cross เป็นการเข้าสายแบบ เชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์ชนิดเดียวกัน
เช่น

1. ต่อตรงระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ 2 เครื่อง
 2. ต่อระหว่าง Hub 2 ตัว โดยไม่มีการใช้ Uplink Port

วิธีการเข้าสาย UTP กับขั้วต่อ RJ45

1. นำสาย UTP มาปอกฉนวนหุ้มที่ปลายสายทั้งสองด้านยาวประมาณ 3 ซ.ม. เมื่อปอกแล้วจะพบเห็นสายอยู่ 4 คู่ บิดเป็นเกลียวแยกสีไว้ชัดเจน


 2. คลายเกลียวที่สายออกสายสัญญาณชนิดไขว้สาย เรียกว่า สายคอสโอเวอร์ ( Crossover )ในกรณีนี้ใช้เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์สองตัวเข้าด้วยกัน แล้วเรียงสายตามสีที่กำหนด
 หัวที่ 1 ให้เข้าหัวแบบ
          1.1 คือ ขาวส้ม+ส้ม, ขาวเขียว+ฟ้า, ขาวฟ้า+เขียว, ขาวน้ำตาล+น้ำตาล


หัวที่ 2 ให้เข้าหัวแบบ
1.2 - ขาวเขียว+เขียว, ขาวส้ม+ฟ้า, ขาวฟ้า+ส้ม, ขาวน้ำตาล+น้ำตาล






3. เมื่อเรียงสายตามสีในขั้นตอนที่ 2 แล้วตัดสายให้เหลือประมาณ 1.5 ซ.ม.
4. เสียบสาย UTP ที่ตัดและเรียงสีไว้แล้ว เข้าไปในขั้วต่อ RJ45 โดยให้หมายเลขสายที่เรากำหนดไว้ตามขั้นตอนที่ 2 ตรงกับหมายเลขขั้ว RJ45



5. เสียบขั้ว RJ45 เข้าไปในร่องคืมดันสาย UTP ให้สนิทอีกครั้ง แล้วใช้มือบีบด้ามคีมให้แน่นโลหะทองเหลืองของขั้ว RJ45 จะเข้าไปสัมผัสกับสายทองแดง ข้อควรระวัง การดึงหัว RJ45 ออกจากคีมให้ใช้มือบีบหางพลาสติกสำหรับล็อกก่อน เป็นอันเสร็จสมบูรณ์ของการเข้าหัว RJ 45



สิ่งที่ได้จากการเข้าหัวแลน
 1. สามารถนำสิ่งนี้ไปใช้ประโยชน์เพื่อทำการเชื่อมต่อเครือข่ายของตัวเองได้
2. สามารถนำความรู้ไปเผยแพร่ให้คนอื่นได้
3. ทำให้ฝึกสมาธิของตัวเองไปในตัว
4. ทำให้รู้จักขั้นตอนในการสายที่ใช้ในการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตแบบคอมต่อคอมได้


อุปกรณ์สำหรับตรวจการนำของสัญญาณ

Network Cable Tester



       อุปกรณ์ในภาพนี้เป็นอุปกรณ์สำหรับใช้ในการตรวจสอบสัญญาณเมื่อมีการต่อสาย LAN เรียบร้อยแล้วเป็นการตรวจการนำของสัญญาณของสายในแต่ละคู่ทั้ง 4 คู่ จำนวน 8 เส้น โดยอุปกรณ์ดังกล่าวจะมีช่องสำหรับเสียบสายทั้งสองด้าน และมีไฟแสดงผลสถานการณ์นำสัญญาณภายในสาย จำนวน 8 ดวง คือ1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8 หรือบ้างรุ่น จำนวน 4 ดวง เป็นแบบ 1&2 3&6 4&5 7&8 เป็นต้น สภาพสายปกติจะมีการแสดงสถานะดวงไฟวิ่งเรียงต่อกัน คือ 1 – 8 หรือ 1&2 - 7&8ก็แสดงว่าการต่อสายสามารถนำมาใช้งานได้ หากสัญญาณไฟปรากฏไม่ครบทั้ง 8 ดวง หรือ 4 ดวง เช่น มีการกระโดดของสัญญาณดวงไฟก็แสดงว่าการต่อสายนั้นอาจเกิดปัญหา สาเหตุอาจมาจาก การต่อผิดแบบมาตรฐาน หรือไม่ภายในสายอาจมีการขาดชำรุด หรือที่หัว RJ-45 ขานำสัญญาณอาจชำรุด ก็เป็นได้

 ที่มาhttp://www.geozigzag.com/pdf/ToSailan.pdf